เมื่อพูดถึงความมีน้ำใจและความดีงามของบุคคลต่าง ๆ ในสังคมแล้ว ถ้าจะว่ากันไปก็อยู่ในเกณฑ์นานาจิตตัง เพราะสิ่งที่คนเรามองเห็นและสะท้อนภาพออกมานั้น มักเป็นความรู้สึกที่แตกต่างกัน และมักไม่ตรงกัน บางทีมันอาจขึ้นอยู่กับข้อพิจารณาที่ว่า เขามองดูกันอย่างไร เขามองมาจากที่ใด และเขามองดูมันด้วยทัศนะของคนประเภทใด ยกตัวอย่าง ชายหรือหญืงคนหนึ่ง ท่าทางสุภาพเรียบร้อย หน้าตาดีมีการศึกษาสูง ท่าทางช่างสง่างามมีเสน่ห์เป็นที่ต้องตาต้องใจเสียจริง ๆ ก็อาจต้องตาจ้องใจเพียงคน ๆ หนึ่งเท่านั้น หาได้ต้องตาต้องใจไปเสียทุกคนไม่ ส่วนน้ำใจและความดีงามต่าง ๆ นั้น จัดเป็นกุศลที่งำไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ เคลือบไว้ซึ่งความอ่อนหวานอ่อนโยนความสุภาพ เพียบพร้อมไปด้วยความรักความเมตตา ดังนั้นจึงน่าจะสง่างามสำหรับทุกคน จะไม่ติดเนื้อต้องใจอยู่บ้างก็แต่เฉพาะคนจำพวกคนพาลสันดานหยาบเท่านั้น
อันความรักของคนเรานั้น ตามปกติควรตั้งจากจุดของการสละให้ มิใช่จากจุดของการเรียกร้องเอา ถ้าหากเรามีความรักต่อใครสักคนหนึ่งมันก็ไม่ควรจะกลายเป็นว่า เราจะได้อะไรจากคนที่เรารัก แต่ควรจะเป็นว่า เราควรจะให้อะไรแก่คนที่เรารักเพราะเหตุแห่งความรักนั้น ความรักดังกล่าวนี้มักดื่มด่ำอยู่ในดวงใจผสมกลมกลืนอยู่ในสายเลือด และดำเนินไปในวิถีทางตามบังคับของกฎธรรมชาติ ความรักในลักษณะดังกล่าวจึงย่อมเป็นของคู่กับความเสียสละ เหมือนน้ำคู่กับฟ้าหญ้าคู่กับดิน ซึ่งหมายถึงที่ใดมีความรักที่นั่นย่อมมีความเสียสละ ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะความรักในแวดวงของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่รวมตลอดไปจนถึงความรักในทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างและทุก ๆ ประเภท เช่น ความรักชาติบ้านเกิดเมืองนอน รักเพื่อน รักเจ้านาย รักลูกน้อง เมื่อความรักความเมตตาเกิดขึ้นแล้ว ก็ย่อมยินดีที่จะเสียสละแม้กระทั่งเลือดเนื้อของตัวเองให้แก่สิ่งที่เรารักได้ เพราะถ้าหากมีผู้ที่ไม่อาจเสียสละแม้กระทั่งสิ่งไร้ค่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้แก่สิ่งที่เขาอ้างว่ารักได้นั้น หาใช้ความรักความเมตตาที่แท้จริงไม่ เพราะเรื่องของความรักความเมตตาที่คู่กับความเสียสละนี้ หาใช่จะปรากฎแต่เฉพาะคนบางคนเท่านั้น แต่มันเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนทั้งโลก อย่างเช่น คนร้ายใจเหี้ยมคนหนึ่งในขณะที่มันคิดจะฆ่าคนนั้น มันอาจมีความรู้สึกเหมือนฆ่าหมาตัวหนึ่ง แต่ถ้าหากมันมีความรักความเมตตาเกิดขึ้นแล้ว มันก็ย่อมมีความเสียสละต่อสิ่งที่เขารัก เพื่อหญิง เพื่อเพื่อน หรือเพื่อเจ้านายและลูกน้องที่มันรักได้โดยง่ายดาย และในทำนองเดียวกัน ผู้หญิงบางคนอาจใจดำอัมหิต มีหัวใจประดุจหิน มีพยศอย่างร้ายกาจ มีทิฐิมานะอันแรงกล้า แต่เมื่อได้ประสบความรักอันแท้จริงแล้ว ก็ย่อมสละความร้าจกาจนั้น ๆ เพื่อบูชาความรักและคนที่หล่อนรักได้โดยฉับพลัน หล่อนอาจเป็นเสีอร้ายสำหรับคนอื่น แต่สำหรับคนที่หล่อนรักก็คงจะมีลักษณะเหมือนแมวเราดี ๆ นี่เอง ซึ่งหมายถึงการยอมลดราวาศอกยอมลงไปข้างหนึ่ง โดยถ้อยทีถ้อยอาศัยปรองดองต่อกันด้วยความอิ่มเอิบใจอย่างใหญ่หลวง และมักจะลงรอยกันในทุกเรื่อง มิใช่แต่เพียงคำพูดเท่านั้น แม้แต่การยอมเสียสละสิทธิ ความเย่อหยิ่งจองหอง ก็เพื่อถนอมน้ำใจของกันและกัน อานุภาพของความรักความเมตตาจะชักนำให้คนเรารู้จักกับความอ่อนโยน ความอ่อนหวาน ความมีเมตตาจิตรู้จักความเป็นสุภาพบุรุษสุภาพสตรีซึ่งมีอยู่ในตัวของเราเอง แล้วในที่สุดเราก็จะเป็นบุคคลอีกคู่หนึ่ง ซึ่งค้นพบความสุขที่แท้จริงในโลกใบนี้
ความรักความเมตตาจึงย่อมอยู่คู่กับความสุข ซึ่งหมายถึงที่ใดมีความรักความเมตตา ที่นั่นย่อมมีความสุข คนที่มีหัวใจงำไว้ซึ่งความรักอันสูงส่งย่อมเปรียบประดุจดั่งต้นน้ำลำธารแห่งพลังงานอันไม่รู้จักหมดสิ้น ความรักความเมตตาจะทำให้หัวใจของคนเรากว้างขวาง รู้จักให้อภัย รู้จักอดทน มีมานะพยายาม เมื่อความรักความเมตตาอันประเสริฐบังเกิดขึ้นแก่ผู้ใด ความลืมตัวความเห็นแก่ตัว ความอ่อนแอ ความโง่เขลาเบาปัญญาก็จะหายไป จะมีแต่สติปัญญา ความซื่อสัตย์ ความบริสุทธิ์ใจ และมีอุปนิสสัยใจคอที่เข้มแข็งดีงาม ทำให้ชีวิตของคนเราสดชื่นมีชีวิตชีวา และมองโลกในแง่ดี...
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีและที่จะถึงนี้ เราได้มอบดอกไม้แก่คนที่เฝ้าเป็นห่วงคุณแล้วหรือยัง



.........................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น